Mitr Phol Group Sustainability

Edit Template

ผู้มีส่วนได้เสียหลัก : ผู้ถือหุ้น, คู่ค้า, ลูกค้าและผู้บริโภค, พนักงาน, ภาครัฐและองค์กรภาคประชาสังคม

กลุ่มมิตรผลเราให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเป็นหนึ่งในพฤติกรรมอันดีของบุคลากรมิตรผล โดยได้กำหนดให้มีนโยบายที่ชัดเจนเพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดมาตรการที่เหมาะสม อันจะส่งเสริม ป้องกันและรักษาความปลอดภัยของพนักงาน ชาวไร่ ผู้รับเหมา รวมถึงผู้ใช้พื้นที่ปฏิบัติงาน และด้วยความตระหนักดีว่าการมีอาชีวอนามัยที่ดีและสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดอุบัติเหตุและการเจ็บป่วย ส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน ตลอดจนลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นให้แก่องค์กร มิตรผลจึงมุ่งบริหารจัดการด้านความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายอุบัติเหตุเป็นศูนย์ในอนาคต จึงได้มุ่งเน้นความร่วมมือจากผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม เพื่อป้องกันและบรรเทาความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนสนับสนุนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

เป้าหมายและผลการดำเนินงานของปี 2567

เป้าหมาย
ผลการดำเนินงาน
อัตราการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงาน (Lost Time Injury Frequency Rate: LTIFR)  สำหรับพนักงาน
น้อยกว่า  0.50 ราย/ 1ล้านชั่วโมงการทำงาน
0.63 ราย/ 1ล้านชั่วโมงการทำงาน
อัตราการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงาน (Lost Time Injury Frequency Rate: LTIFR)  สำหรับผู้รับเหมา
น้อยกว่า 0.50 ราย/ 1ล้านชั่วโมงการทำงาน
0.72 ราย/ 1ล้านชั่วโมงการทำงาน

แนวทางการบริหารจัดการ

การส่งเสริมวัฒนธรรมที่คำนึงถึงความปลอดภัยและอาชีวอนามัยเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญ ซึ่งมีคณะกรรมการบริหารทำหน้าที่กำกับดูแล โดยได้อนุมัติให้มีนโยบายความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ที่ชัดเจน เพื่อให้ฝ่ายจัดการสามารถใช้เป็นแนวทางและทำหน้าที่ในการกำหนดมาตรการอย่างเหมาะสมโดยองค์กรได้รับการรับรองมาตรฐานระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ISO 45001:2018 ที่กำหนดให้องค์กรต้องมีระบบการจัดการที่เหมาะสมและมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การกำหนดนโยบายและแนวทางการบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอาชีวอนามัยและความปลอดภัยสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของมิตรผล ตลอดจนกำหนดมาตรการในการส่งเสริมและการบรรเทาผลกระทบ รวมถึงจัดให้มีการสื่อสารให้พนักงานในองค์กรและผู้เกี่ยวข้องทราบ และกำหนดโครงสร้างการกำกับดูแลและการบริหารที่ชัดเจนและเหมาะสม โดยมีฝ่ายความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมของทั้งส่วนกลางและส่วนโรงงานในแต่ละพื้นที่ ทำหน้าที่รับผิดชอบต่อการบริหารจัดการความปลอดภัยและอาชีวอนามัย และยังเป็นผู้ขับเคลื่อนการดำเนินงานส่งเสริมความปลอดภัยให้แก่พนักงานตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้กระบวนการในการบ่งชี้ความเป็นอันตราย การประเมินความเสี่ยงและการสอบสวนอุบัติการณ์เพื่อระบุประเด็นความเสี่ยง (Risk) และโอกาส (Opportunity) ครอบคลุมกระบวนการปฏิบัติงาน กิจกรรม และพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ผลิตภัณฑ์และบริการขององค์กร ตลอดจนกิจกรรมในการดำเนินการของผู้รับเหมาที่มีนัยสำคัญต่อองค์กร โดยพิจารณาครอบคลุมทั้งสถานการณ์ปกติ สถานการณ์ไม่ปกติ และสถานการณ์ฉุกเฉิน และกำหนดแผนควบคุมและลดความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ในทุกระดับความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญ รวมถึงความเสี่ยงที่เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยกำหนดผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานและติดตามแผนงานดังกล่าวเป็นระยะ  โดยจะนำผลจากกระบวนการเหล่านี้ไปพัฒนาระบบการบริหารจัดการ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมของมิตรผลต่อไป

เพื่อให้การบ่งชี้ความเป็นอันตรายและการประเมินความเสี่ยงสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน บริษัทจึงกำหนดให้มีการทบทวนและปรับปรุงอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบ กระบวนการผลิต กิจกรรม เครื่องจักรอุปกรณ์ หรือบุคลากรที่มีนัยสำคัญ โดยอ้างอิงตามมาตรฐานการชี้บ่งอันตรายและการประเมินความเสี่ยงของกลุ่มมิตรผล หากพนักงานหรือผู้บังคับบัญชาพบว่ากิจกรรมหรืองานที่ได้รับมอบหมายมีความเสี่ยงหรืออาจก่อให้เกิดอันตราย การบาดเจ็บหรือเสียชีวิต สามารถปฏิเสธการปฏิบัติงานและหรือสั่งหยุดการกระทำนั้นได้ทันที และต้องแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบเพื่อดำเนินการแก้ไข โดยอ้างอิงตามมาตรฐานบทบาทหน้าที่และกฎระเบียบด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานของมิตรผล ในกรณีที่เกิดอุบัติการณ์หรือสภาพที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด จะมีกระบวนการรายงาน ค้นหาสาเหตุ วิเคราะห์แนวทางแก้ไขป้องกันและติดตามผลการแก้ไขเพื่อป้องกันการเกิดขึ้นซ้ำ โดยอ้างอิงตามมาตรฐานการจัดการอุบัติการณ์ขององค์กร

การสร้างวัฒนธรรมองค์กรด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย

การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่คำนึงถึงความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของมิตรผลเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพได้อย่างยั่งยืน โดยมิตรผลมุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและมีสุขอนามัยที่ดี เพื่อให้ผู้บริหาร พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกราย สามารถทำงานได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยและมีความสุข นอกจากนี้ เพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้และความรับผิดชอบร่วมกันในองค์กร ควบคู่ไปกับการลดอุบัติเหตุและการเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นในที่ทำงาน บริษัทจึงได้มีการฝึกอบรม จัดกิจกรรม และให้ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยและอาชีวอนามัยอย่างต่อเนื่อง

โครงการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย
และสิ่งแวดล้อมในเครือมิตรผล

มิตรผลจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม และคัดเลือกวิทยากรประจำศูนย์ฝึกอบรมที่มีความรู้ ความสามารถ และมีคุณสมบัติที่ตรงตามความต้องการของแต่ละหลักสูตร พร้อมทั้งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นวิทยากรอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งสามารถออกใบรับรองหลังฝึกอบรมได้ ซึ่งผลจากการดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมในเครือมิตรผลนี้ทำให้พนักงานมีความรู้ความเข้าใจ อีกทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มทักษะและความชำนาญในการปฏิบัติงานให้กับผู้ปฏิบัติงานสามารถปฏิบัติงานให้สอดคล้องตามกฎหมายความปลอดภัยในการทำงานกำหนดไว้ อันเป็นการส่งเสริมการลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุในที่ทำงาน นอกจากการส่งเสริมความปลอดภัยในการปฏิบัติงานแล้ว การจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมนี้ยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดอบรมหลักสูตรต่างๆ ภายในกลุ่มมิตรผล เช่น หลักสูตรเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (ระดับหัวหน้างาน) หลักสูตรคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน หลักสูตรการขับรถฟอร์คลิฟท์เพื่อความปลอดภัยในการทำงาน หลักสูตรความปลอดภัยในการทำงานกับสารเคมีอันตราย หลักสูตรผู้อนุญาต ผู้ควบคุมงาน ผู้ช่วยเหลือ และผู้ปฏิบัติงานในที่อับอากาศ เป็นต้น

โครงการสำรวจวัฒนธรรมด้านความปลอดภัย (Safety Culture Survey)

การจัดทำโครงการสำรวจวัฒนธรรมความปลอดภัย (Safety Culture Survey)

มิตรผลจัดให้มีโครงการสำรวจวัฒนธรรมด้านความปลอดภัย (Safety Culture Survey) เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2566 เพื่อสำรวจพฤติกรรมและทัศนคติด้านความปลอดภัยในการทำงาน รวมถึงความคิดเห็นของพนักงานและผู้บริหารทุกระดับต่อการส่งเสริมวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยในแต่ละกลุ่มธุรกิจ โดยมีวัตถุประสงค์ คือ

  1. เพื่อสำรวจพฤติกรรม และทัศนคติด้านความปลอดภัย ในการทำงาน รวมถึงความคิดเห็นของพนักงานต่อการส่งเสริมวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยในแต่ละกลุ่มธุรกิจ
  2. นำผลจากการสำรวจ มาดำเนินการพัฒนาวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยให้เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มธุรกิจอย่างยั่งยืน


โดยในปี พ.ศ.2566 บริษัทได้เริ่มสำรวจพนักงานประจำทั้งหมดในกลุ่มธุรกิจเอทานอลและธุรกิจวัสดุทดแทนไม้ จำนวน 608 คน และในปี พ.ศ.2567 ได้ขยายการสำรวจไปยังพนักงานในกลุ่มธุรกิจน้ำตาลและธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มเติม จำนวนรวมทั้งสิ้น 4,284 คน โดยผลจากการสำรวจพนักงานทั้งหมดจะถูกนำมาใช้เพื่อพัฒนาวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยให้เหมาะสม พร้อมทั้งปิดช่องว่างและจุดอ่อนที่สำรวจพบ เพื่อให้บรรลุสู่เป้าหมายสูงสุดคือ การลดการประสบอันตราย อุบัติเหตุ และการเจ็บป่วยจากการทำงานให้เป็นศูนย์

การขับเคลื่อนสุขภาวะคนทำงานในสถานประกอบการอย่างมีส่วนร่วม

ด้วยความตระหนักถึงความสำคัญของบุคคลากรที่จะช่วยในการขับเคลื่อนผลผลิตและความก้าวหน้าขององค์กรและสังคมโดยรวม ด้วยเหตุนี้ มิตรผลจึงสนับสนุนและส่งเสริมสุขภาวะของผู้ปฏิบัติงานด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพเชิงบูรณาการ เพื่อพัฒนาสถานประกอบการให้เป็นองค์กรสุขภาวะต้นแบบอย่างมีส่วนร่วม รวมถึงการสร้างและส่งเสริมเครือข่ายในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ปฏิบัติงานในสถานประกอบการ โดยกิจกรรมที่จัดขึ้นนั้นมาจากการนำข้อเสนอแนะจากพนักงานและผู้รับเหมาหลายภาคส่วนเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพสำหรับพนักงานและผู้รับเหมาของบริษัท

ผลการดำเนินงานที่สำคัญ

ปัจจุบันบริษัทในเครือมิตรผลได้รับการรับรองมาตรฐานระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (ISO 45001:2018) ครอบคลุมจำนวนทั้งสิ้น 28 บริษัท จากทั้งหมด 101 บริษัท ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและมีสุขอนามัยที่ดี พร้อมทั้งมีแผนดำเนินการขอการรับรองเพิ่มเติมในอนาคต เพื่อยกระดับมาตรฐานให้สอดคล้องกับแนวทางสากลอย่างต่อเนื่อง และได้มีการกำหนดเป้าหมายอัตราการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงาน (Lost Time Injury Frequency Rate หรือ LTIFR) ทั้งในระดับกลุ่มมิตรผลและระดับหน่วยธุรกิจ และมีการติดตามอย่างต่อเนื่องทุกปี

อัตราการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงาน (Lost Time Injury Frequency Rate – LTIFR)

นโยบายที่เกี่ยวข้อง

นโยบายความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม

Mitr Phol Group Sustainability
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.