Mitr Phol Group Sustainability

Edit Template

ผู้มีส่วนได้เสีย : ผู้ถือหุ้น  /เกษตรกร  /คู่ค้า  /ลูกค้าและผู้บริโภค  /ภาครัฐและองค์กรภาคประชาสังคม

การจัดการห่วงโซ่อุปทานเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเพราะอาจนำมาซึ่งผลกระทบเชิงลบต่อบริษัทและผู้มีส่วนได้เสียทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และการกับดูแลกิจการ เช่น ความเสี่ยงในด้านคุณภาพของสินค้า ความเสี่ยงจากการที่คู่ค้าปล่อยมลพิษเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือความเสี่ยงจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นต้น และเพื่อที่จะจัดการความเสี่ยงเหล่านี้ บริษัทจึงได้มุ่งมั่นบริหารจัดการห่วงโซ่คุณค่าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกำหนดให้มีจรรยาบรรณทางธุรกิจสำหรับคู่ค้าตลอดจนจัดให้มีกระบวนการพิจารณาคัดเลือกคู่ค้าที่คำนึงถึงหลักเกณฑ์ด้านความยั่งยืนเพื่อคัดกรองคู่ค้าที่มีมาตรฐานสอดคล้องตามที่บริษัทกำหนดซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงอันเนื่องมาจากคู่ค้าได้ อีกทั้งยังมีกระบวนการในการสร้างความตระหนักให้แก่คู่ค้าเพื่อให้ดำเนินงานโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมมากขึ้น อีกทั้งยังได้มีความร่วมมือระหว่างกันในโครงการที่ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนอีกด้วย

เป้าหมายและผลการดำเนินงานของปี 2567

เป้าหมาย
ผลการดำเนินงาน
คู่ค้ารายสำคัญ (Significant Supplier) ได้รับการประเมินความเสี่ยง
ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับกิจการที่ดี (ESG Assessment)
ร้อยละ 100
ร้อยละ 64.6
เพิ่มสัดส่วนการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
2 รายการ
2 รายการ

แนวทางการบริหารจัดการ

นโยบายการจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน

บริษัทกำหนดนโยบายการจัดหาวัตถุดิบทางการเกษตร นโยบายจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน และจรรยาบรรณคู่ค้ามิตรผล เพื่อเป็นแนวปฏิบัติให้แก่พนักงานและคู่ค้า โดยมีเนื้อหาครอบคลุมประเด็นด้านบรรษัทภิบาล สังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น จริยธรรมทางธุรกิจ การเคารพสิทธิมนุษยชน การปฏิบัติต่อแรงงานด้วยความเป็นธรรม การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น พร้อมทั้งสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงมีการตรวจสอบและติดตามให้คู่ค้าปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยคู่ค้าทุกรายต้องลงนามรับทราบและยอมรับข้อกำหนดในจรรยาบรรณคู่ค้าก่อนเข้าร่วมเป็นคู่ค้าของมิตรผล

กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน

ในการจัดซื้อจัดจ้างของกลุ่มมิตรผลมีกระบวนการในการเข้าร่วมเป็นคู่ค้า ดังนี้

มิตรผลมีขั้นตอนที่รัดกุมในการตรวจสอบคุณสมบัติคู่ค้าและการบริหารความเสี่ยงตามกลุ่มประเภทสินค้าและบริการ (Supplier Position Model) ทุกรายที่จะขอขึ้นทะเบียนเป็นคู่ค้าใหม่ของบริษัท โดยคู่ค้าทุกรายที่ผ่านการลงทะเบียนสมัครเป็นคู่ค้ากับบริษัทจะต้องเข้าสู่ขั้นตอนการคัดกรองและคัดเลือกคู่ค้าเพื่อให้ผ่านตามเกณฑ์มาตรฐานของมิตรผล ซึ่งในการคัดเลือกคู่ค้าจะมีการพิจารณาทั้งในเรื่องของข้อมูลทั่วไปของคู่ค้า รวมถึงการประเมินความสำคัญและความเกี่ยวข้องทางธุรกิจ (เช่น ราคา เทคนิค ระยะเวลาการจัดส่งสินค้า ปริมาณการสั่งซื้อ เป็นต้น) และการประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG Assessment) ทั้งในระดับประเทศ ระดับอุตสาหกรรม และในระดับสินค้า โดยมีการกำหนดน้ำหนักในแต่ละด้านแตกต่างกันไป เมื่อคู่ค้าผ่านการประเมินดังกล่าวรวมถึงลงนามรับทราบจรรยาบรรณคู่ค้า จึงจะสามารถขึ้นทะเบียนคู่ค้ากับบริษัทได้

โดยในปี พ.ศ.2567 บริษัทคัดกรองคู่ค้ารายใหม่ ผ่านการใช้แบบประเมินด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดีกับคู่ค้ารายใหม่ จำนวน 2,462 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 87.37 จากจำนวนคู่ค้าใหม่ทั้งหมด ส่วนคู่ค้าหลักรายสำคัญ (Significant Tier-1 Supplier) และ
คู่ค้าทางอ้อมรายสำคัญ (Significant non Tier-1 Supplier) ได้รับการประเมินความเสี่ยงด้านความยั่งยืนประจำปี พ.ศ.2567 (ESG Assessment 2024) ด้วยวิธีการประเมินแบบเบื้องต้น (Deck Assessment) ผ่านการตอบแบบประเมินความเสี่ยงด้านความยั่งยืนด้วยตนเอง (Self-assessment) และ/หรือการตรวจเยี่ยมสถานประกอบการ (On-site Assessment) โดยฝ่ายจัดซื้อและจัดหาวัตถุดิบ (Procurement division/ Material sourcing section) จำนวนทั้งสิ้น 967 ราย

นอกจากนี้บริษัทยังกำหนดให้มีการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานคู่ค้าประจำปี ทั้งในการประเมินเชิงคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าและบริการ รวมถึงการทบทวนการประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดีของคู่ค้าส่วนกลาง เพื่อให้มั่นใจว่าคู่ค้าของบริษัทจะมีการปฏิบัติที่สอดคล้องตามจรรยาบรรณคู่ค้าอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งลดความเสี่ยงทั้งในด้านคุณภาพ การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน และความเสี่ยงอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยคู่ค้าจะถูกประเมินผลการดำเนินงานประจำปีทั้งในรูปแบบการประเมินผลด้วยตนเอง (self-assessment) ผ่านการใช้แบบสอบถาม หรือ การตรวจประเมินในสถานประกอบการคู่ค้า (2nd party on-site assessment) โดยฝ่ายบริหารคุณภาพคู่ค้าเป็นผู้ตรวจประเมิน รวมถึงการตรวจประเมินจากบุคคลที่ 3 (3rd party on-site assessments) เช่น มาตรฐานการผลิตอ้อยและน้ำตาลอย่างยั่งยืน (Bonsucro Standard) มาตรฐาน Supplier Guiding Principles มาตรฐาน Sedex Members Ethical Trade Audit เป็นต้น พร้อมทั้งแจ้งผลการประเมินให้กับคู่ค้าผ่านทางอีเมล หรือช่องทางอื่นใดที่กำหนดไว้โดยคู่ค้ายังสามารถเปรียบเทียบผลการประเมินกับคู่ค้ารายอื่น เพื่อให้คู่ค้าสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานพร้อมทั้งพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยหากพบว่าคู่ค้ารายใดไม่ดำเนินธุรกิจตามข้อกำหนดในจรรยาบรรณคู่ค้า เช่น ละเมิดสิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม และการกำกับดูแลกิจการ เป็นต้น บริษัทจะดำเนินการแจ้งเตือน โดยกำหนดแผน ระยะเวลา และติดตามการแก้ไขปรับปรุงในประเด็นดังกล่าว หากคู่ค้าไม่สามารถปฏิบัติตามเกณฑ์ขั้นต่ำที่บริษัทกำหนด จะมีการกำหนดบทลงโทษและอาจดำเนินการยกเลิกสัญญาและถอดรายชื่อออกจากทะเบียนคู่ค้าของบริษัทอย่างถาวร นอกจากนี้หากคู่ค้ามีผลการประเมินประจำปีในด้านความยั่งยืนอยู่ในเกณฑ์ที่ดีจะเพิ่มโอกาสในการได้รับเลือกหรือชนะการประมูลสัญญากับทางบริษัทมากกว่าคู่ค้าที่มีผลการประเมินที่ต่ำกว่าเกณฑ์ เนื่องจากบริษัทมีการนำเกณฑ์การประเมินในด้านความยั่งยืนมาใช้เป็นปัจจัยในการคัดเลือกคู่ค้า โดยปัจจุบันบริษัทมีการประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (ESG Assessment) กับคู่ค้าหลักรายสำคัญ (Significant Tier-1 Supplier) เช่น คู่ค้าสารเคมี บรรจุภัณฑ์ เป็นต้น

บริษัทยังมีการตรวจติดตามและพัฒนาการดำเนินงานของคู่ค้า โดยสนับสนุนให้เข้าร่วมโครงการพัฒนาคู่ค้า ด้วยมีจุดมุ่งหวังเพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงาน คุณภาพของสินค้าและบริการ นำมาซึ่งประโยชน์ในการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มยอดขาย รวมถึงลดความเสี่ยงในการดำเนินกิจการ ให้กับทั้งคู่ค้าและบริษัทอีกด้วย

กระบวนการประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับกิจการ

คู่ค้าควรดำเนินธุรกิจสอดคล้องตามหลักจรรยาบรรณคู่ค้ามิตรผลและคำนึงถึง ESG คู่ค้าที่ได้รับผลการประเมินตามเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด จะได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ เช่น รางวัลพิเศษ เกียรติบัตร หรือ การยกย่องให้เป็น “ชาวไร่ต้นแบบ” หรือคะแนนพิเศษในกรณีที่คู่ค้าทำโครงการร่วมกับบริษัท คู่ค้าที่ไม่ผ่านคะแนนการประเมินขั้นต่ำ จะต้องปรับปรุงประสิทธิภาพของตนและส่งหลักฐานการปรับปรุงให้กับบริษัท โดยบริษัทจะพิจารณาและปลดล็อคสถานะให้ หากได้รับการประเมินว่าผ่านเกณฑ์แล้ว

สำหรับเกษตรกรที่ส่งมอบอ้อยสด จะได้รับราคาอ้อยพิเศษ โดยราคาจะเป็นไปตามประกาศของรัฐบาล และหากส่งมอบอ้อยไฟไหม้ จะถูกหักราคาอ้อย หากพบว่ามีการบุกรุกป่าสงวน/ เขตป่า/ เขตอนุรักษ์ จะไม่รับซื้อหรือยกเลิกสัญญา

คู่ค้าและเกษตรกรทุกคน โดยเฉพาะคู่ค้าและเกษตรกรรายสำคัญ จะได้รับเชิญให้เข้าร่วมโปรแกรมการฝึกอบรมที่มีการอบรมด้าน ESG อย่างน้อยปีละครั้ง (กรณีคู่ค้า – งานสัมมนาคู่ค้าประจำปี, กรณีเกษตรกร – การประชุมประจำปีของสมาคมชาวไร่และโรงงานน้ำตาล)

ประเภทคู่ค้าของมิตรผล

การจำแนกคู่ค้าจะถูกจัดสรรตามบทบาทหรือลักษณะของสินค้าและบริการ เพื่อให้การบริหารจัดการและดูแลคู่ค้าแต่ละประเภทเป็นไปอย่างเหมาะสม โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ คู่ค้าส่วนกลางและคู่ค้าวัตถุดิบ โดยมีรายละเอียดดังนี้

คู่ค้าส่วนกลาง

เป็นคู่ค้าที่เป็นผู้สนับสนุนจัดหาสินค้าและบริการ หรือจ้างเหมาทั้งในและต่างประเทศ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มย่อย 

คู่ค้าวัตถุดิบ

คือ คู่ค้าที่จัดจำหน่ายวัตถุดิบหลักให้กับบริษัท เพื่อใช้ในกระบวนการผลิตสินค้า หรือบริการต่างๆ โดยจำแนกดังนี้

นอกจากนี้ บริษัทยังกำหนดให้มีการจำแนกคู่ค้าที่มีความสำคัญ (Significant Suppliers) ตามปริมาณยอดการสั่งซื้อและระดับความสำคัญของสินค้า เพื่อให้บริษัทสามารถกำหนดแผนและกลยุทธ์ในการบริหารจัดการคู่ค้าให้มีประสิทธิภาพ โดยมีเกณฑ์ดังนี้

  • เป็นคู่ค้าที่ส่งมอบสินค้าพิเศษ ต้องเป็นไปตามมาตรฐานกลุ่มมิตรผลกำหนดเท่านั้น
    ได้แก่ สารเคมีที่ใช้ในกระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์
  • เป็นผู้ขายน้อยรายที่มีความเชี่ยวชาญ จำเป็นต้องมีเทคโนโลยีในการผลิตสินค้าตามที่กลุ่มมิตรผลต้องการ
  • เป็นผู้ขายที่กลุ่มมิตรผลมียอดสั่งซื้อสูงตามเกณฑ์ที่กลุ่มมิตรผลกำหนด
  • เป็นคู่ค้ากลุ่มผู้รับเหมาที่มีการขออนุมัติอัตรา เพื่อปฏิบัติงานในด้านต่างๆ
  • เป็นคู่ค้าที่ดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับกิจการที่ดี
ซึ่งในปี พ.ศ.2567 บริษัทมีคู่ค้าทั้งหมด 36,772 ราย ประกอบด้วยคู่ค้าหลัก (Tier 1 Suppliers) ร้อยละ 94.4 และคู่ค้าทางอ้อม (Non-Tier 1 Suppliers) ร้อยละ 5.6 โดยมีคู่ค้าหลักรายสำคัญ (Significant Tier 1 Suppliers) จำนวน 1,391 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 4.01 ของจำนวนคู่ค้าหลักทั้งหมด และคู่ค้าทางอ้อมรายสำคัญ (Significant Non-Tier 1 Suppliers) จำนวน 106 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 5.14 ของคู่ค้าทางอ้อมทั้งหมด โดยมีค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อจากคู่ค้าหลักที่มีความสำคัญ คิดเป็นร้อยละ 46.7 ของคู่ค้าหลักทั้งหมด

การพัฒนาระบบ Mitr Phol Procurement System

มิตรผลพัฒนาระบบ Mitr Phol Procurement System (MPS) เพื่อเป็นช่องทางการใช้งานให้กับผู้ขอซื้อ จัดซื้อและคู่ค้า รวมถึงประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้กับคู่ค้าแบบทันที (Real-time) และการประเมินคู่ค้า เมื่อจัดส่งสินค้าหรือบริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยข้อมูลบน MPS จะเชื่อมโยงกับข้อมูลในระบบ SAP เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ตรวจสอบ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความโปร่งใส รวดเร็ว และลดความซับซ้อนของกระบวนการทำงาน ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงกระบวนการจัดซื้อทั้งหมด รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารทรัพยากรและต้นทุนขององค์กร

สำหรับวัสดุสัมผัสอาหาร (Food Contact Materials) ที่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยของอาหาร เช่น สารเคมีที่ใช้ในกระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์ เมื่อทำการตรวจรับสินค้าที่คู่ค้าจัดส่งในระบบ MPS แล้ว ระบบดังกล่าวจะติดตามคุณภาพสินค้า แหล่งผลิต รวมไปถึงการขนส่งที่มีความปลอดภัย  หากส่งสินค้าไม่ถูกต้องตามข้อมูลจำเพาะของสินค้า (Specification) หรือสินค้าดังกล่าวมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับด้านความปลอดภัยอาหาร ทางคู่ค้าจะต้องแก้ไขความไม่สอดคล้องดังกล่าวภายในระยะเวลาที่กำหนด

การจัดสัมมนาและมอบรางวัลให้กับคู่ค้าประจำปี

มิตรผลจัดสัมมนาคู่ค้าเป็นประจำทุกปี เพื่อสื่อสารจรรยาบรรณคู่ค้า ระเบียบการจัดหาสินค้าและบริการของบริษัทให้คู่ค้าทุกรายรับทราบระบบมาตรฐานคุณภาพที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย นอกจากนี้ยังได้สื่อสารเรื่อง Mitr Phol Supplier ESG Program ให้คู่ค้าได้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติที่ยั่งยืนขององค์กร รวมถึงการอบรมเพื่อสร้างการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทาน (ESG Awareness Training) บนการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเคารพต่อสิทธิมนุษยชนและชุมชนรอบข้างและการดำเนินธุรกิจบนการกำกับดูแลกิจการที่ดี พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์โครงการพัฒนาคู่ค้าและรางวัล รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นและความคาดหวังของคู่ค้าเพื่อยกระดับประสิทธิภาพในกระบวนการทำงานร่วมกัน พร้อมทั้งเพิ่มรายได้และลดความเสี่ยงในการดำเนินกิจการ อีกทั้งสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างคู่ค้าและบริษัท เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจร่วมกันอย่างยั่งยืน

เพื่อเป็นการสนับสนุนคู่ค้าที่ร่วมมือและเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคู่ค้ารายอื่นๆ ให้มีการพัฒนาด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงได้จัดให้มีการมอบรางวัลให้กับคู่ค้าที่มีผลงานดีเด่นประจำปี พ.ศ.2567 ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 3 โดยมีคู่ค้าที่มีผลงานระดับดีเยี่ยมที่ได้รับเกียรติบัตรและรางวัลพิเศษจากกลุ่มมิตรผล จำนวน 92 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 18 ราย หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 24.3%

การอบรมพนักงาน

การพัฒนาความรู้ความเข้าใจของพนักงานในด้านความยั่งยืนตามความเหมาะสมและลักษณะบทบาทหน้าที่ รวมถึงบริบทของพนักงาน จะช่วยให้การสื่อสารและการส่งเสริมการพัฒนาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่อุปทาน สามารถเกิดขึ้นได้และมีประสิทธิภาพ โดยการอบรมพนักงานในด้านความยั่งยืน ซึ่งครอบคลุมในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและการกำกับดูแลกิจการที่ดี ด้วยความมุ่งหวังในการฝึกทักษะใหม่และยกระดับทักษะเดิม (Reskill and Upskill) ซึ่งรวมถึงพนักงานฝ่ายจัดซื้อจัดจ้าง โดยในปี พ.ศ.2567 มีการอบรมด้านความยั่งยืน เช่น การอบรมคาร์บอนฟุตพริ้นต์ (Carbon Footprint) การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) การกำหนดราคาคาร์บอนภายในองค์กร (Internal Carbon Pricing ICP) สิทธิมนุษยชน (Human Rights) และการบริหารจัดการความเสี่ยง (Risk Management) เป็นต้น

นโยบายที่เกี่ยวข้อง

นโยบายการจัดหาวัตถุดิบทางการเกษตร

นโยบายจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน

Mitr Phol Group Sustainability
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.